รักษาความปลอดภัย ระดับโลก ประชุมสุดยอด (ซัมมิต) ณ เวียดนาม
ผลความสำเร็จการเจรจร นายคิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือและคณะที่มาประชุมสุดยอด (ซัมมิต) ครั้งที่สองกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ ณ บ้านพักรับรองของรัฐบาลเวียดนามหรือโรงแรมเมโทรโปล ประเทศเวียดนาม เมื่อเป็นคนสำคัญระดับที่ใครต่อใครก็เรียกขานว่าผู้นำโลกมาตรการรักษาความปลอดภัยจึงเข้มงวดมากเป็นขั้นซุปเปอร์ระดับโลก ต่างก็มีพื้นฐานมาจากการวางระบบรักษาปลอดภัยที่ใช้ปฏิบัติกันอย่างจริงจัง หลายเรื่องราวที่เราๆอาจเคยเห็นในหนังแอคชั่นหลายต่อหลายเรื่องจนบางทีต้องอุทานออกมาว่า ทำขนาดนั้นเชียว กล้องวงจรปิด เครื่องตรวจจับโลหะ สุนัขดมกลิ่น เริ่มจากการติดตั้งกล้องวงจรปิดในเส้นทางและสถานที่ที่ผู้นำคนสำคัญต้องพำนัก เดินทางผ่าน หรือประกอบกิจกรรมตามคำเชิญ พร้อมทั้งจัดเจ้าหน้าที่มอนิเตอร์ความเคลื่อนไหวทุกจอในห้องควบคุม การตรวจสอบก่อนผู้นำเดินทางมาถึงนั้น ชุดล่วงหน้าจะเข้าสแกนพื้นที่ทั้งหมดอย่างละเอียดด้วย เครื่องตรวจจับโลหะ ดีที่สุด (Metal Detector) รวมทั้งเช็กลูกบิดประตู ท่อแอร์ สายไฟ ปลั๊กไฟ ต่างๆ เป้าหมายก็เพื่อตรวจหาอุปกรณ์การดักฟัง หรือกล้องบันทึกภาพ หรือสิ่งแปลกปลอมอื่นใดที่ไม่ควรมี นอกจากนี้ยังใช้สุนัขดมกลิ่นเพื่อการอารักขา การเดินทางเยือนของผู้นำทั้ง 2 ประเทศในครั้งนั้น เส้นทางการเดินทางมาเวียดนาม นายคิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ นายคิมออกเดินทางที่สถานีรถไฟเปียงยางพร้อมคณะเจ้าหน้าที่อาวุโส รวมทั้งคิม โยจง น้องสาวของเขา ขบวนรถไฟกันกระสุนของเขาเข้าจีนที่เมืองต้านตง จากนั้นแล่นไปตามรางรถไฟของจีน ผ่านกรุงปักกิ่ง ลงไปยังเมืองเจิ้งโจว เมืองอู่ชาง เมืองหนานหนิง แล้วเข้าเวียดนามที่เมืองด่งดัง จากนั้นเปลี่ยนเป็นนั่งรถเบนซ์กันกระสุนมุ่งหน้าเข้ากรุงฮานอยที่อยู่ห่างออกไป 170 กิโลเมตร แต่ละช่วงของการเดินทางแน่นอนว่า มาตรการรักษาความปลอดภัยเข้มงวดดังกล่าวข้างต้นช่วยป้องกันเหตุที่ไม่คาดคิดได้ฉับพลัน รวมทั้งติดตั้งและสแกนโลหะ พร้อมเจ้าหน้าทีรักษาความปลอดภัยทีมาพร้อม เครื่องตรวจจับโลหะ (Metal Detector) เพื่อตรวจความปลอดภัยแต่ละช่วงของการเดินทาง รถไฟกันกระสุน & ตระกูลนายคิม จองอึน เหตุทีผู้นำเกาหลีเหนือไม่ขึ้นเครืองบินแต่กลับนั่งรถไฟกันกระสุนและรถกันกระสุน เพราะตระกูลคิมตั้งแต่รุ่นนายคิม อิลซุง ผู้ก่อตั้งเกาหลีเหนือและปู่ของนายคิม จองอึน จนถึงนายคิม จองอิล บิดาของนายคิม และตัวเขาล้วนชอบการเดินทางด้วยรถไฟ ขบวนรถไฟของนายคิมคล้ายกับที่ปู่และบิดาเคยใช้ มีทั้งหมด 21 ตู้ขบวน มีตู้ประชุมสีขาวล้วน ตู้รับประทานอาหาร ตู้นอน บางตู้มีชุดเก้าอี้หนังสีชมพูเข้ม จอโทรทัศน์ขนาดใหญ่และผ้าม่านหน้าต่างสีงาช้าง รถไฟขบวนพิเศษนี้เชื่อมต่อโทรศัพท์ผ่านดาวเทียม แล่นบนรางรถไฟจีนได้สูงสุด 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เกือบสองเท่าของที่ทำความเร็วได้สูงสุด 45 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเมื่อแล่นบนรางรถไฟเกาหลีเหนือ คณะผู้ติดตาม เจ้าหน้าที่อารักขา ความปลอดภัย ระดับโลก ส่วนคณะผู้ติดตามที่เหลือเดินทางมาเวียดนามด้วยเครื่องบินลำเลียงของแอร์โครยอที่เป็นสายการบินแห่งชาติ พร้อมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยชายราว 100 คนที่ตัดผมและแต่งกายเหมือนกันหมดตบเท้าลงจากเครื่องบินที่ท่าอากาศยานฮานอยก่อนหน้าที่ผู้นำเกาหลีเหนือจะเดินทางมาถึงเพื่ออารักขาและเตรียมความพร้อมด้านความปลอดภัยที่เข้มงวด นอกจากนี้เครื่องบินลำนี้ยังขนรถเบนซ์รถกันกระสุน ที่นายคิมใช้เมื่อซัมมิตครั้งแรกกับทรัมป์ที่สิงคโปร์เมื่อก่อนหน้านี้มาแล้ว กลุ่มทหารในชุดลายพรางพร้อมเครื่องตรวจจับโลหะ (Metal Detector) ดีที่สุด ครบมือกระจายทั่วบริเวณนั้น ทหารอีกหลายกลุ่มเร่งติดตั้งอุปกรณ์วิทยุสื่อสารและอุปกรณ์ต่าง ๆ บนหลังคาอาคารใกล้เคียง โดยมีตาข่ายลายพรางคลุมอุปกรณ์ไว้ ผลสำเร็จ ประชุมสุดยอด (ซัมมิต) ณ เวียดนาม ทั้งหมดนี้เป็นมาตรการการอารักขาผู้นำทั้ง 2 ประเทศ จะว่าไปแล้วการเป็นบุคคลสำคัญที่ชีวิตมีผลกระทบต่อความเป็นไปของโลก ก็ดูจะลำบากเหลือเกิน แต่ประเทศเจ้าภาพอย่างเวียดนามก็คงงานหนักเอาเรื่อง เพราะคงไม่อยากให้มีเหตุการณ์อะไรไม่ดี มาเกิดขึ้นกับคนสำคัญในบ้านเมืองของตนเองด้วยเหมือนกัน จึงได้จำเป็นต้องเสริมมาตราการความปลอดภัยให้มั่นใจว่าประชุมสุดยอด (ซัมมิต) ครั้งที่สอง ประสบผลสำเร็จ และเป็นประวัติศาสตร์สำหรับประเทศเจ้าภาพ Cr.สำนักข่าวไทย,Spring News เครื่องตรวจโลหะ สนามบิน ตรวจพบกรรไกรในช่องท้องของ ผู้โดยสาร เกาหลีใต้
หากพูดถึง เครื่องตรวจจับโลหะ(Metal Detector)แล้ว หลายๆคนคงอาจจะเคยได้ยินได้เห็นผ่านหูผ่านตามาบ้างในช่วงที่ผ่านมา แต่อาจมีคนเพียงบางกลุ่มเท่านั้นที่ได้มีโอกาสสัมผัสและใช้งานอย่างแท้จริง ซึ่ง เครื่องตรวจโลหะ (Metal Detector) ถูกนำเข้ามาเพื่อใช้งานตรวจหาโลหะสิ่งแปลกปลอมในสินค้าหรือวัตถุดิบ ใช้สแกนโลหะทางโบราณคดีทั้งทางบกและทางน้ำ รวมทั้งใช้ตรวจโลหะชั้นสูงจำพวก ทองคำ เงิน เครื่องเพชรพลอย หรืออาวุธที่ติดตัวคน เช่น มีดและปืน โดยเฉพาะในหน่วยงานความปลอดภัยของสนามบินมีการใช้งานอย่างแพร่หลาย ทีมีเหตุการณ์สแกนโลหะเจอกรรไกรในท้องของผู้โดยสารเครืองบิน ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อตรวจพบโลหะเครื่องจะส่งสัญญาณเสียงแจ้งเตือนและหลอดไฟ LED จะแสดงสถานะการตรวจจับให้ทราบ จุดเริ่มต้นประดิษฐ์ เครื่องตรวจโลหะ (Metal Detector) สำหรับต้นกำเนิด เครื่องตรวจโลหะ (Metal Detector) นั้นสามารถย้อนกลับไปไกลถึงราวปี คศ. 1820 หรือ พศ. 2363 ตรงกับรัชกาล พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย (รัชกาลที่ 2) โดยนักวิทยาศาสตร์ที่ได้ค้นพบสนามแม่เหล็กจากการปล่อยกระแสไฟฟ้าผ่านขดลวด ซึ่งเป็นหลักการสำคัญของ เครื่องตรวจจับโลหะ (Metal Detector) ที่ใช้ในปัจจุบัน ด้วยหลักการนี้ “อเล็กซานเดอร์ เกรแฮม เบล” เป็นนักประดิษฐ์คนแรกที่สร้าง เครื่องตรวจโลหะ (Metal Detector) ได้สำเร็จ แต่จุดประสงค์การสร้างในครั้งนั้น ไม่ได้สร้างขึ้นมาเพื่อใช้เพื่อรักษาความปลอดภัย แต่มีจุดประสงค์เพื่อช่วยชีวิตประธานาธิบดี เจมส์ การ์ฟิลด์ ประธานาธิบดีคนที่ 20 ของสหรัฐอเมริกา จากการถูกลอบยิงในปี 1881 ได้ประดิษฐ์เครื่องตรวจจับโลหะ(Metal Detector) ค้นหาลูกกระสุนปืนที่ถูกฝังอยู่ในร่างกายมนุษย์โดยอาศัยหลักการสนามแม่เหล็กไฟฟ้า นั้นเอง เครื่องตรวจโลหะ ตรวจพบ “กรรไรผ่าตัด” ในช่องท้องผู้โดยสาร เครื่องตรวจจับโลหะ(Metal Detector) ยังสามารถสแกนโลหะแปลกปลอมในท้องของคนได้อีกด้วย จากสำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ขณะผู้โดยสารหญิงชาวเกาหลีใต้ นางปาร์ค อายุ 47 ปี เจ้าของบริษัททัวร์คนหนึ่ง เดินผ่านประตูตรวจจับโลหะ ทำการตรวจเช็คความปลอดภัยที่สนามบิน เครื่องตรวจโลหะ (Metal Detector) กลับส่งเสียงดังตลอด จนเจ้าหน้าที่ของสนามบินต้องเรียกตัวไว้พร้อมทำการตรวจค้นแต่ก็ไม่พบสิ่งผิดปกติใด จนเจ้าหน้าที่ต้องทำการเอ็กซ์เรย์ และต้องตะลึง พบวัตถุแปลกปลอมเป็น “กรรไรผ่าตัด” อยู่ภายในท้องของเธอ ความยาวประมาณ 15 เซนติเมตร เธอจึงได้นำภาพเอ็กซ์เรย์ไปยื่นต่อโรงพยาบาล ทางแพทย์จึงตกใจและรีบทำการผ่าตัดเอากรรไกรนี้ออกให้ทันที โรงพยาบาล เกาหลีใต้ ลืม “กรรไรผ่าตัด” ในช่องท้องคนไข้ ปลายปีที่แล้ว นางปาร์คเคยเข้ารับการผ่าตัดไขมันในช่องท้องที่โรงพยาบาลในเมืองซูวอน จังหวัดคยองกี เกาหลีใต้ ซึ่งการผ่าตัดแพทย์ครั้งนั้นแพทย์ได้ลืมกรรไกรผ่าตัดอันนี้ไว้ในท้องของเธอ หลังจากผ่าตัดเธอรู้สึกเจ็บเหมือนเข็มทิ่มแทงที่ท้อง จึงไปสอบถามแพทย์ที่โรงพยาบาล แต่ทางแพทย์ก็ไม่ได้จัดการใดๆ ให้ บอกคนไข้ว่าเป็นผลจากหลังการผ่าตัด โดยทั่วไปแล้วหลังจากสิ้นสุดการผ่าตัดทีมแพทย์ผ่าตัดจะต้องมีการนับจำนวนเครื่องมือในการผ่าตัดด้วยว่ายังมีครบหรือไม่ ซึ่งเห็นได้ชัดว่าการผ่าตัดครั้งนั้นทีมแพทย์ไม่ได้ทำตามขั้นตอนพื้นฐาน ปัจจุบันนางปาร์คได้ว่าจ้างทนายความยื่นเรื่องฟ้องร้องดำเนินคดีแล้ว โชคดีทีนางได้เดินผ่าน ระบบรักษาความปลอดภัยและ เครื่องตรวจโลหะ (Metal Detector) สแกนโลหะก่อนขึ้นเครื่องบิน จึงได้ตรวจพบเจอสาเหตุที่นางปวดท้องบ่อย ๆๆ Cr.สนุก โตเกียวติดตั้ง เครื่องตรวจโลหะ รถไฟใต้ดิน รองรับ โอลิมปิก 2020
ในสนามบินใหญ่ๆ หลายแห่งทั่วโลก เริ่มมีการติดตั้ง เครื่องตรวจโลหะ ชนิด เครื่องสแกนร่างกาย (Full Body Scanner) ที่ผู้โดยสารต้องเข้าไปยืน ยกมืออยู่นิ่งๆ สักพัก เพื่อให้เจ้าหน้าที่ดูผลการสแกนจากหน้าจอ เครื่องสแกนร่างกายนี้ สามารถตรวจจับโลหะได้ละเอียดขึ้น ไม่เพียงเฉพาะโลหะเท่านั้น แต่ยังสามารถตรวจหาวัตถุอื่นๆ ที่ไม่ใช่โลหะ ที่ซ่อนอยู่ตามร่างกายได้ด้วย ให้ความแม่นยำสูง เครื่องสแกนร่างกายถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลายขึ้นหลังโศกนาฏกรรม 9/11 ที่สหรัฐอเมริกา ขณะที่กระทรวงคมนาคมของญี่ปุ่นจะทดลองติดตั้งเครื่องสแกนร่างกายผู้โดยสาร ที่สถานีรถไฟใต้ดินในกรุงโตเกียว เพื่อเตรียมความพร้อมความปลอดภัยก่อนหน้ามหกรรมโตเกียวโอลิมปิก 2020 ติดตั้งเครื่องสแกนร่างกาย ตรวจจับโลหะ รถไฟใต้ดิน โตเกียวเมโทร รถไฟใต้ดิน โตเกียวเมโทร ติดตั้งเครื่องสแกนร่างกาย(Full Body Scanner) โดยจะเริ่มติดตั้งที่สถานีคาซูมิกะเซกิ ของเส้นทางรถใต้ดินโตเกียวเมโทรก่อน หนึ่งในสถานีที่คับคั่งที่สุดในกรุงโตเกียว โดยจะติดตั้งเครื่องสแกนที่ประตูตรวจตั๋ว เป็นเวลา 7 ชั่วโมงต่อวัน รวมทั้งเวลาเร่งด่วนที่มีผู้โดยสารมากที่สุดในช่วงเช้าและเย็น เพื่อทดสอบว่าจะสามารถตรวจจับอาวุธและวัตถุระเบิดที่แอบแฝงมากับผู้โดยสารได้หรือไม่ หน้าจอเครื่องโลหะจะบอกทุกสิ่งที่ซ่อนอยู่ตามร่างกายป้องกันการแอบเอาวัตถุแปลกปลอมขึ้นรถไฟใต้ดิน โดยไม่ทำให้การเดินทางของผู้โดยสารติดขัดหรือเกิดความล่าช้า เครื่องสแกนร่างกาย & เครื่องตรวจโลหะ เครื่องสแกนร่างกายตรวจโลหะ มีข้อดีกว่าเครื่องตรวจโลหะทั่วไป ตรงที่มีความแม่นยำ และมีความรวดเร็ว ไม่จำเป็นต้องถอดแจ็กเกตออกก็ได้ ลดการเสียเวลาของการตรวจค้นร่างกายด้วย เครื่องตรวจโลหะ (Metal Detector) ไปได้มาก ทั้งการตรวจค้นร่างกายด้วยเครื่องตรวจจับโลหะ (Metal Detector) และ ตรวจผ่าน เครื่องสแกนร่างกาย(Full Body Scanner) หากเจ้าหน้าที่ไม่แน่ใจ ก็จะมีการตรวจค้นอีกครั้ง ด้วย เครื่องตรวจโลหะแบบพกพา และใช้มือค้นตามร่างกาย เป็นการตรวจตามมาตรฐานสากล ออกกฎ ห้ามนำมีดและของมีคม ขึ้นรถไฟทั่วประเทศญี่ปุ่น เครื่องสแกนร่างกาย(Full Body Scanner)นี้เป็นแบบเดียวกับที่ใช้ในสนามบิน สามารถมองเห็นสิ่งต่าง ๆ ที่ซุกซ่อนในเสื้อผ้าได้ทั้งหมด มีประสิทธิภาพสูงกว่า เครื่องตรวจจับโลหะ (Metal Detector) ทั่วไป กระทรวงคมนาคมของญี่ปุ่นระบุว่า การทดลองครั้งนี้เพื่อรวบรวมข้อมูล เตรียมมาตรการรักษาความปลอดภัยหลังจากเกิดเหตุคนร้ายใช้มีดแทงผู้โดยสารบนรถไฟความเร็วสูงชิงกังเซ็ง เมื่อปีที่แล้ว ทางกระทรวงคมนาคมของญี่ปุ่นจึงได้สั่งออกคำสั่งห้ามนำมีดและของมีคมที่ไม่มีปลอกห่อหุ้มขึ้นรถไฟทั่วประเทศญี่ปุ่น ตั้งแต่เดือนเมษายนนี้ ความเป็นส่วนตัว สำหรับ การใช้เครื่องสแกนร่างกาย วัตถุที่สามารถใช้ในการก่อเหตุร้ายได้ ซึ่งโดยส่วนมากจะเป็นอาวุธที่มีส่วนประกอบของโลหะ จึงส่งผลต่อวัตถุโลหะทุกอย่างที่เราจำเป็นต้องถือติดตัวไปด้วย ทั้งหัวเข็มขัด กระเป๋าสตางค์ เหรียญต่างๆ พวงกุญแจ นาฬิกาข้อมือ รองเท้าบางประเภท เป็นต้น อย่างไรก็ตาม การใช้เครื่องสแกนร่างกายก็มีความวิตกกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัว กระทรวงคมนาคมจึงแจ้งว่า ผู้โดยสารที่ไม่ประสงค์จะผ่านเครื่องสแกนก็สามารถใช้ทางเข้าที่ประตูอื่นทีใช้เจ้าหน้าทีตรวจวัตถุด้วย เครื่องตรวจจับโลหะ (Metal Detector) ส่วนประตูที่ติดตั้งเครื่องสแกนนั้น ผู้โดยสารเพียงแค่เดินผ่านตามปกติ ไม่ต้องหยุด และไม่มีการสแกนสัมภาระ โดยคาดว่าจะในระยะทดลองนี้จะมีผู้โดยสารราววันละ 150,000 คน ยกระดับความปลอดภัย ก่อน กีฬาโอลิมปิก 2020 ที่ญี่ปุ่น กระทรวงคมนาคมของญี่ปุ่นระบุว่า กำลังศึกษามาตรการและอุปกรณ์ต่าง ๆ เพื่อยกระดับความปลอดภัยก่อนที่กรุงโตเกียวจะเป็นเจ้าภาพกีฬาโอลิมปิก จำเป็นต้องติดตั้ง อุปกรณ์ตรวจโลหะ เช่น เครื่องตรวจโลหะ แบบพกพา(Metal Detector) เหมาะสำหรับตรวจรักษาความปลอดภัยบุคคล เพื่อตรวจจับโลหะทีเป็นอาวุธและอุปกรณ์ทีมีส่วนผสมของโลหะ เช่น มีด ปืนพก วัตถุระเบิด เหล็ก รวมถึงอุปกรณ์อื่นๆ และ ติดตั้ง เครื่องสแกนร่างกาย(Full Body Scanner) ตามสถานีรถไฟต่าง ๆๆ สามารถที่จะแจ้งเตือนได้อัตโนมัติหากพบวัตถุที่มีหน้าตาเหมือนกับที่ระบบได้โปรแกรมไว้ เช่น ปืน, มีด, มีดพับ, กรรไกร, ลูกกระสุน, ฯลฯ บนหน้าจอ รวมถึงวัตถุเสมือนระเบิด หรือวัตถุที่อาจเป็นส่วนผสมของระเบิด ที่ผู้โดยสารอาจนำไปประกอบเป็นระเบิดได้ในภายหลัง Cr.ผู้จัดการ,Spin9.me |
update info by ;
|